ขอแชร์มาจากเฟสSurasingha Potisitกลุ่มพระเครื่องพระราชพรหมยานขออนุโมทนาในธรรมมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน - ประวัติหลวงพ่อปาน.....ผีสาวอาละวาด..... ..........คืนแรกที่เข้าป่าช้าก็พบความศักดิ์สิทธิ์ของป่าช้า นั่นคือผีดิบอาละวาด เมื่อหลวงพ่อท่านกลับออกมาแล้วต่างก็ตั้งพิธีกรรมตามใจชอบ คือ ใครเห็นว่าอะไรควรก็ทำกันตามอารมณ์ของตัว เพราะต่างคนต่างอยู่ ป่าช้าก็แสนจะรก เดินไปมาหาสู่กันก็แสนจะยากเกรงว่าเจ้างูร้ายนายป่าช้ามันจะเล่นงานเอา ก็เลยต้องต่างคนต่างอยู่ สมัยนั้นไฟฟ้าที่วัดบางนมโคยังไม่มีใช้มีตะเกียงรั้วคนละลูกจุด มีแสงรำไร น่ากลุ้มไม่น้อยเลย พอค่ำดีฉันก็เข้าสมาธิตามแบบฉบับของหลวงพ่อที่ท่านสอน ท่านสอนว่าก่อนภาวนาให้ปลงสังขารตามแบบไตรลักษณ์ก่อน ฉันจะไม่อธิบายว่าเขาปลงกันอย่างไร เมื่อปลงสังขารพอสบายก็เริ่มภาวนา ท่านว่าอย่างนั้นหรือว่าใครปลงสังขารได้ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงเวลาเลิกโดยไม่ภาวนาเลยยิ่งดีใหญ่ ที่ท่านสอนแบบนั้นความจริงท่านป้อนวิปัสสนาญาณให้พอใจ ด้วยพวกฉันทั้งพวกเป็นพวกบ้าสมถะ ฉันไม่ต้องการวิปัสสนา เพราะนิพพานฉันไม่สนใจ ฉันต้องการเห็นสวรรค์และนางฟ้า อยากจะดูนางฟ้าว่าจะสวยขนาดไหน คนสวยเคยเห็นและรู้รสสัมผัส ตอนนี้อยากเห็นนางฟ้าและอยากได้นางฟ้ามาเป็นเมีย คนนี่ถ้าลงได้บ้าแล้วมันบ้าไม่น้อย บ้าพอกับวาสนาบารมีทีเดียว อย่างฉันเป็น ..........ตัวอย่าง เมื่อท่านเห็นว่าไม่ชอบวิปัสสนา ท่านทราบว่าอารมณ์สมถะเป็นเพียงกำลัง วิปัสสนาเป็นอาวุธที่จะประหัตประหารกิเลส เมื่อผู้ปฏิบัติไม่ชอบก็เลยบอกวิปัสสนาเป็นสมถะเสีย เจ้าจอมโง่ที่บรมบ้าไม่ฉลาดเท่าท่านก็เลยคิดว่าวิปัสสนาเป็นสมถะ เมื่อปลงขันธ์ ๕ ตามรูปสักกายทิฏฐิในแนวไตรลักษณ์แล้ว พออารมณ์สบายก็ขยายอารมณ์ออกในแนวพรหมวิหาร ๔ เมื่อเห็นอารมณ์ชุ่มด้วยปีติ ความอิ่มใจปรากฏฉันก็เริ่มบทภาวนา คือ ตั้งจิตจับลม ๓ ฐานตามวิสุทธิมรรค หลวงพ่อท่านก็สอนตามนั้นหายใจเข้ารู้ว่าลมกระทบจมูก กระทบอก กระทบท้อง หายใจออกรู้ว่าลมกระทบท้อง กระทบอก กระทบริมฝีปาก ฉันทำได้ ไม่เห็นจะยากเลยง่ายจะตายไป นึกในใจว่าของกล้วย ๆ แบบนี้นะหรือที่เรียกว่ากรรมฐานระดับที่ ๒ ..........เมื่อกำหนดลมอยู่แล้ว คือ สติคอยจับการกระทบไม่พลาดเป้าหมาย ท่านให้ภาวนาว่า พุทโธ อันนี้ยิ่งหวานจ๋อยใหญ่ เพราะว่ามาเป็นปกติ อันดับที่ ๓ ท่านให้กำหนดรูปพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่ชอบให้เห็นว่าลอยอยู่ ภายนอกหรือในอก อันนี้ก็กล้วยอีก ได้แล้วตั้งแต่อายุ ๑๒ ปี เอาของที่ได้แล้วมาสอนง่ายจะตายไป แปลกอยู่อย่างเดียวที่กำหนดลมเท่านั้นเอง เห็นว่าเป็นของใหม่ ฉันทำตามท่านไปพักหนึ่งประมาณชั่วโมงครึ่ง เห็นอารมณ์สบายฉันเกิดนึกถึงหลวงพ่อองค์ยิ้มของฉันขึ้นมา ฉันเลยขอเห็นหลวงพ่อองค์ยิ้มแทนพระพุทธรูป พอหลวงพ่อองค์ยิ้มมา คราวนี้ท่านพูด ท่านเรียกฉันว่า สัมพเกษี ฉันอาจจะได้ยินเพี้ยนไป คงจะเป็นคำว่าสรรพเกษี กระมัง ท่านพูดว่าการรักษาลมหายใจเข้าออกเป็นฌานนะลูก จงรักษาให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ จิตของลูกจะมีกำลัง จะท่องเที่ยวไปไหนก็ไปได้เอง นรก สวรรค์ พรหม แม้พระนิพพานก็สามารถไปได้ ฉันดีใจเกือบตายที่หลวงพ่อองค์ยิ้มของฉันพูดกับฉัน เวลาผ่านมา ๑๐ ปีเศษที่ฉันพบท่าน ท่านยิ้มอย่างเดียวท่านไม่เคยพูดเลย แต่ยิ้มท่านยังมีประโยชน์ ฉันจะไปนรกท่านยิ้มปัปเดียวฉันถึงนรกเลย เมื่อเวลาผ่านไป ประมาณ ๔ ชั่วโมง ฉันก็พักหยิบนาฬิกาข้อมือที่ติดตัวมาออกดูเห็นบอกเวลา ๒๓.๐๐ น. ฉันพักจากทำสมาธิ วันนี้ดูอารมณ์ชุ่มชื่นผ่องใสมากเหมือนเมื่อยังไม่ได้บวช มีความสุขบอกไม่ถูก ฉันออกมาเดินนอกกระท่อม รอบ ๆ กระท่อมที่ฉันอยู่มีกระท่อมที่ยังมีศพอีก ๓ กระท่อม พระท่านบอกว่าเมื่อวันวานนี้เขาเอาศพหญิงอายุ ๑๘ ปี ตั้งครรภ์อ่อน ๆ เธอตายด้วยโรคอะไรไม่ทราบมาไว้ ฉันเดินไปใกล้กระท่อมหลังนั้น ตอนดึกมันเงียบสงัดดีจริง แสง ไฟนอกจากกระท่อมฉันแล้วไม่มีที่ไหนเลย เสียงสิ่งมีชีวิตไม่มีเสียงปรากฏเลย มองไปดูบนวัดเห็นแสงไฟดับหมดแสดงว่าพระหลับ มองไปทางกระท่อมเจ้า ๓ เพื่อนก็เงียบสงัด ฉันมันอิ่มใจที่หลวงพ่อองค์ยิ้มท่านพูดกับฉัน ใจมันฟูไม่อยากนอน ไม่อยากหลับ เดินไปเดินมาอยู่คนเดียว มองความวิเวกด้วยอารมณ์เป็นสุข พอเข้าไปใกล้กระท่อมแม่สาว ได้ยินเสียงอึด ๆ ๆ ๆ แล้วมีเสียงตีข้างโลงดังปัง ฉัน หยุดยืนฟังเสียงอึด ๆ ๆ ๆ ดังตลอดเวลา ฉันคิดว่าแม่นี่จะอาละวาดกระมัง อยากจะรู้นักว่าคนตายแล้วจะมีฤทธิ์เดชสักแค่ไหน กลับมาที่กระท่อม ถือตะเกียงหาเครื่องมือด้วย ตอนเย็นเห็นสิ่วกับขวานอย่างละ ๑ เล่มที่สัปเหร่อลืมเอาไว้ จึงไปนำสิ่วกับขวานมา พอมาถึงโลงก็งัดฝาโลง เมื่อเปิดออกไปแล้วกลิ่นแกเหม็นจัง ตอนที่ไปโอ๋สาวๆ ไม่เห็นมันเหม็นอย่างนี้เลย หรือไม่ได้มองตรงที่เหม็นก็ไม่ทราบ หรือหน้ามืดเลยเห็นของเหม็นคิดว่าเป็นของหอมไปก็ไม่รู้ ยืนท้ายลมทนไม่ไหว ต้องขยับไปทางเหนือลม เอาไฟฉายส่องลงไป เห็นแกนอนลิ้นจุกปาก ขึ้นอืด น้ำเหลืองเดือดทางปากปุด ๆ เสียงที่ดังลอดออกมาเป็นเสียงน้ำเหลืองไหลนั่นเอง เสียงดังปังปรากฏอีก เป็นเสียงที่สายตราสังที่เขามัดมือมัดเท้าขาด มือเท้าแกก็วัดข้างโลงเลยดังปัง เป็นอันว่าแกไม่มีเจตนาหลอก แกทนไม่ไหวต่างหาก ตอนนี้เลยใช้อารมณ์อสุภกรรมฐานตามที่เรียนมาเข้าพิจารณา เลยได้อสุภสัญญาเล็กน้อยพอมองสาวไม่สวย เมื่อไปทะเลาะกับแม่สาวน้อยกลอยใจพอเข้าใจว่าเธอไม่แกล้งหลอก และได้อสุภสัญญาพอควรแก่อารมณ์ก็กลับมานอน ปรากฏว่านาฬิกาบอกเวลา ๒ น. เศษ เมื่อนอนก็ปลงตามภาพที่เห็นมา พอใจสบายอยากจะหลับ ปรากฏว่าพวกที่ยิงตายสมัยก่อนบวชมีจำนวนประมาณ ๓๐ คนกว่า มันมานอนคว่ำหน้าเป็นแถว ได้พยายามแผ่เมตตาขอให้รับส่วนบุญ มันไม่เอาสักอย่าง ทำอย่างไรก็ไม่เอา มันบอกว่ามันจะพยายามขัดขวางการบำเพ็ญฌานด้วยประการทั้งปวง เมื่อมันไม่เอาจริง ๆ ก็เลยนอน แล้วก็หลับไป เมื่อคนจะนอน ผีจะว่าอย่างไรคนไม่เกี่ยว นอนปิดหูปิดตาส่งเดช มันเมื่อยมันเข้าต่างก็ถอยทัพกลับเป็นแถว เมื่อแสงทองปรากฏก็เตรียมตัวออกบิณฑบาตปฏิบัติตามระเบียบของพระ เมื่อกลับมาและฉันอาหารร่วมกับพระทั้งหมด มีหลวงพ่อปานเป็นประมุข เมื่อฉันเสร็จหลวงพ่อท่านมองหน้าฉันท่านพูดว่า เมื่อคืนนี้คุณทรงอารมณ์ได้ดีมาก ศพหญิงสาวมีประโยชน์ แต่ทว่าคุณตอกตะปูที่เขาตอกไว้ไม่ครบ ฉันแล้วกลับไปตอกเสียให้ครบ ถ้าไม่ทำให้ครบเจ้าของศพเขาจะหาว่ายักยอกทรัพย์สินของเขา เป็นพระต้องระมัดระวังอย่าใช้คำว่าไม่เป็นไร ไม่ว่าของจะมีค่าน้อยขนาดไหน ถ้าเขาไม่อนุญาตมีโทษทั้งนั้น เรียนถามท่านว่าหลวงพ่อทราบได้อย่างไรว่ากระผมเปิดโลงผี ท่านบอกว่าท่านทราบตั้งแต่ตอนกลางวัน คือ ทราบตั้งแต่ยังบวชพระไม่เสร็จว่า เธอจะต้องเปิดฝาโลงผี จึงจัดเธอไว้ที่นั่นเพื่อให้เปิดได้สะดวก ๆ แล้วท่านก็พูดต่อไป พวกที่จองเวรเธอขอให้สัญญากับมันว่าปีหน้า๒๔๘๑ จะบวชพระให้ ๗ องค์ ทอดกฐินให้ ๗ วัด ขอให้มันอโหสิกรรม (งดจองกันต่อไป) เสีย ถามท่านว่าทราบอย่างไร ท่านบอกว่าท่านทราบพร้อมกับทราบเรื่องงัดฝาโลงผี นี่เป็นเรื่องแปลกที่คาดไม่ถึงเลยเกิดศรัทธาในตัวท่านมากขึ้น พอกลับมาถึงที่พัก เจ้าพวกจัญไรมาปรากฏอีกก็เลยให้สัญญากับมันตามที่หลวงพ่อสั่ง มันยอมรับและไม่มารบกวนอีกเลย เรื่องการสร้างกรรมชั่ว ถ้าเห็นตัวอย่างแบบนี้พอเชื่อได้ สำหรับวันนี้เหนื่อยแล้วขอพักก่อน วันต่อไปจะนำเรื่องที่เห็นว่าควรมาเล่าให้ฟังต่อไป ติดตามบทความดีดีได้ที่komsanvpr.lnwshop.com ^_^ . ·
หน้าที่เข้าชม | 1,376,019 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,080,636 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ธ.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 28 ก.ค. 2568 |