"เมืองพัทยา" เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ก็ปรากฏนามพระเกจิดัง "พระครูวิสุทธิ์ปิยากร" หรือ "หลวงปู่อาด ปิยธัมโม? เจ้าอาวาสวัดบุญสัมพันธ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ชาวเมืองพัทยาและอ.บางละมุง ให้ความเลื่อมใสศรัทธา
เป็นพระอีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย มีเมตตาธรรมสูง
นอกจากนี้ ยังเป็นพระเกจิสืบทอด พุทธาคมสายเมืองกรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา และวิทยาคมสายภาคตะวันออก จนชาวบ้านเรียกขานว่า "เทพยดาแห่งท้องทะเลพัทยา"
ปัจจุบัน สิริอายุ 76 พรรษา 46
อัตโนประวัติ เป็นชาวเมืองพระนคร ศรีอยุธยา เกิดเมื่อปีพ.ศ.2479 ที่ อ.บางบาล มีนามเดิมว่า สอาด ชมยงค์ ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา
ในช่วงวัยเยาว์เป็นคนที่มีใจใฝ่ในธรรม แต่ด้วยทางบ้านมีฐานะยากจน เมื่อจบชั้นประถมศึกษาภาคบังคับจึงไม่ได้เรียนต่อ
ทำงานช่วยครอบครัว จนมีอายุพอครบเกณฑ์ทหารจึงได้รับการตรวจเลือกเข้าเกณฑ์ทหารกองประจำการ เมื่อปลดเกณฑ์ทหารออกมาใช้ชีวิตฆราวาส กระทั่งเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตทางโลก
จึงอุปสมบท เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2509 ณ วัดหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา มีพระเขมเทพาจารย์ วัดหัวเวียง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาเงิน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์เส็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายา ปิยธัมโม
หลังอุปสมบท ศึกษาพระปริยัติธรรม อย่างมุ่งมั่น
พระเขมเทพาจารย์เห็นว่าสนใจศึกษา และปฏิบัติ จึงถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ ให้โดยไม่ปิดบัง
สำหรับพระเขมเทพาจารย์นั้น เป็นที่รู้กันดีท่านถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังใน ยุคนั้น
ยังเป็นศิษย์หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด, หลวงพ่อไวย์ วัดบรมวงศ์ และศิษย์ก้นกุฏิของพระครูอุดมสมาธิวัตร หรือหลวงปู่เปลื้อง
ในการศึกษาเล่าเรียนวิชา ท่านเดินทางไปเรียนวิชาชนิดเจอตัวจริงๆ ของครูอาจารย์ อาทิ หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด ต้องอาศัยความเพียรพยายามยิ่ง ด้วยหลวงพ่อยิ้มมีบุคลิกเงียบขรึมพูดน้อย แต่ท่านจะบอกสอนวิชาตอนกลางคืนต้องอาศัยความอดทน สู้ทนกับความง่วงนอน แต่ท่านก็เรียนจนสำเร็จ
หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด ถือเป็นพระเกจิชื่อดังแห่งเมืองกรุงเก่า เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับสมัญญานามว่า สามเสือกรุงเก่า ศิษย์มักเรียกผูกกันว่า "ยิ้ม-ปาน-จง"
จากนั้นไปเรียนวิชากับหลวงพ่อไวย์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่วัดสุธาโภชน์ จากนั้นออกจารึกแสวงหาวิชาอาคม ได้พบพระครูอุดมสมาธิวัตร หรือหลวงปู่เปลื้อง มีโอกาสเรียนเลขยันต์พิสดาร วิชาแพทย์แผนโบราณ ต่อกระดูก วิชาสักยันต์สี-น้ำมัน
การท่องธุดงค์ของหลวงปู่อาดมีเรื่องราวพบเจอสิ่งแปลกๆ ในป่าใหญ่กลางหุบเขามากมาย เป็นประสบการณ์ที่หลวงปู่อาดถ่ายทอดบอกเล่าแก่ลูกศิษย์ใกล้ชิดเป็นการภายใน
ต่อมาย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดในเขตบางละมุง จ.ชลบุรี
ท่านยังได้เพียรศึกษาและปฏิบัติกัมมัฏฐานและวิทยาคมจากบูรพาจารย์สายภาคตะวันออกหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ อ.ศรีราชา ฯลฯ
วัตถุมงคลประเภทเครื่องรางที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่อง คือ แพะเหลียวหลัง ตำรับเดียวกับ ของอดีตพระเกจิอาจารย์ดัง หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง ก่อนสืบทอดมาถึงหลวง พ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ
หลวงปู่อาดได้วิชาแพะมาถ่ายทอดจากหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ วิชาปลุกเสกวัตถุมงคลดังกล่าวจะสอนกันตอนคืนเดือนหงาย ปลุกเสกกลางจันทร์จึงจะเข้มขลัง
แพะเหลียวหลังรุ่นแรก หลวงปู่อาด มีลักษณะเป็นแพะเหลียวหลัง นั่งคร่อมตอ หน้ายาว เขายาว เครายาว ลงอักขระเลขยันต์ตามตำรา ต้นตำรับสายตรงหลวงพ่ออ่ำ แต่ใช้สูตรเฉพาะตัวหลวงปู่อาด เด่นด้านเมตตามหานิยม
ในเรื่องนี้ หลวงปู่อาดมีความประณีตพิถีพิถันในการจัดสร้างตามที่ได้รับสืบทอดมาจากหลวงพ่อเริ่มและปลุกเสกอย่างดีที่สุด
ด้วยจำนวนการจัดสร้างน้อยและสร้าง ออกมาไม่บ่อยครั้งนัก ทำให้วัตถุมงคลทุกรุ่นเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล
ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมานาน เป็นที่กล่าวขวัญในหมู่ศิษย์ชาวเมืองพัทยา และภาคตะวันออก ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในภาคตะวันออกและพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลสำคัญแทบทุกพิธี
หลวงปู่อาดมีตำแหน่งทางปกครองเป็น เจ้าคณะตำบลหนองปรือเขต 2, เป็นพระอุปัชฌาย์ และยังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนาม "พระครูวิสุทธิ์ปิยากร"
ทุกวันนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาวัดและจิตใจของชาวเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับวัดบุญสัมพันธ์ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มเย็น สำหรับเป็นที่พักพิง แก่มวลสรรพสัตว์ ฉันใด
หลวงปู่อาด ก็เป็นธงธรรมให้ร่มเงา พึ่งพิงจิตใจฉันนั้น
หน้าที่เข้าชม | 1,374,569 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,079,186 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ธ.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 28 ก.ค. 2568 |