ปู่เจ้าสมิงพราย ที่บูชากันอยู่นี้แท้จริงแล้วคือองค์ไหน
****คำเตือน บทความนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากการสอบถามและจากเรื่องเล่าจากหลายๆท่าน ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างไม่มีข้อสรุป ว่าแท้จริงแล้วเรากำลังบูชา ถือเอาว่าเป็นครูด้านเสน่ห์และภูติพรายนั้น เข้าใจกันถูกหรือไม่ ความคิดเห็นและสงสัยส่วนตัวเท่านั้น*******
เอ่ยถึงนามปู่เจ้าสมิงพราย แน่นอนทุกคนรู้จักดี เข้าใจกันว่าท่านเป็นครูทางด้านเสน่ห์และภูติพราย ใครเล่นผีเลี้ยงพรายควรจะมีท่านไว้ช่วยคุมพรายเสริมพลังให้ภูติพราย แต่ถ้าหากว่ากลุ่มคนแรกๆที่บูชาปู่เจ้าสมิงพรายเป็นเรื่องเป็นราว ถึงขนาดตั้งศาลและตั้งชื่อถนนเป็นแห่งแรกบอกว่าไม่ใช่แบบนี้เลย คุณจะบูชาท่านต่อมั้ยหากว่าฤาษีหน้าเสือที่ท่านบูชากันอยู่ ท่านไม่ได้เสริมฤทธิ์เพิ่มพลังและคุมภูติพรายแต่อย่างใด?.....
เราทราบเรื่องราวของการเป็นเอกด้านการทำเสน่ห์และการใช้ภูติพรายของ ปู่เจ้าสมิงพราย ผ่านทางตำนานลิลิตพระลอ (รายละเอียดไปหาอ่านกันเองนะครับ) ในตำนานลิลิตพระลอ ไม่มีการกล่าวถึงปู่เจ้าสมิงพรายว่ามีหน้าเป็นเสือแม้แต่นิดเดียว ดูได้จากรูปปั้นที่อุทยานลิลิตพระลอ เป็นตัวอย่าง ตามตำนานกล่าวว่าท่านอยู่ในวัยไม่หนุ่มไม่แก่ คิ้วสวย ปากสวยดูดีมีเสน่ห์
ในตำนานกล่าวถึงเรื่องราวการทำเสน่ห์ของปู่เจ้าสมิงพรายและการให้ทั้งกองทัพภูติพรายถล่มจนเทวดารักษาเมืองพากันหนีอยู่ไม่ได้ จึงไม่มีใครสงสัยในความเป็นเอกด้านการใช้ภูติพรายของท่าน แท้จริงแล้วคำว่า "สมิง" แปลว่าเหนือ เช่น สมิงไม้คือไม้ที่เหนือกว่าไม้ทั่วไป (ไม้กลายเป็นหิน) สมิงเหล็ก คือเหล็กไหลนั้นเอง ปู่เจ้าสมิงพรายก็คือปู่ผู้อยู่เหนือเหล่าภูติพรายทั้งปวง ความรู้นี้จากท่านอาจารย์อุทัย ผาแก้วตั้งข้อสังเกตุไว้ ดังนั้นแล้วที่เราๆท่านๆ บูชากันอยู่นี้อาจจะเป็นปู่เจ้าสมิงพรายองค์นี้ หาได้เกี่ยวข้องกับปู่เจ้าสมิงพรายที่หน้าเป็นเสือแต่อย่างใด
ส่วนปู่เจ้าสมิงพรายที่ประดิษฐานอยู่ที่ถนนพระประแดง สมุทรปราการ เหตุผลของการตั้งศาลนี้เกิดขึ้นในสมัยราวๆ ร.ศ 112 สมัยช่วงตะวันตกล่าอาณานิคม ส่งเรือรบเข้ามาประชิดมิได้ขาด ชาวสมุทรปราการจึงได้พยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวที่เชื่อว่าเอาไว้ป้องกัน ข่ม ปราบศัตรูผู้รุกรานมายัง ปากแม่น้ำแห่งนี้ มีความเชื่อของคนพื้นที่ว่า ปู่เจ้าสมิงพรายท่านเป็นใหญ่ ณ ผิวพื้นมหาสมุทรทั่วทั้งบริเวณสยามประเทศ อยู่ในฐานะเทวดารักษาประเทศต่อจาก พระเสื้อเมือง พระทรงเมืองที่ดูแลพื้นที่ชั้นใน ส่วนปู่เจ้าสมิงพรายท่านดูแลพื้นผิวทะเลทั้งหมด ชาวบ้านแถวนั้นจึงรวมใจกันสร้างศาลและอัญเชิญปั้นรูปปู่เจ้าสมิงพรายขึ้นมา ประดิษฐานบริเวณนั้น เพื่อเป็นการขจัดภัยพาล ข่มอริราชศัตรูผู้รุกราน ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพราะว่าท่านเป็นเอกด้านการทำเสน่ห์และภูติพรายแต่อย่างใด อันนี้จากปากคำที่สอบถามจากคนพื้นที่และคนรุ่นเก่าๆที่ดูแลศาลเล่าให้ฟังนะครับ
ส่วนที่ยังเป็นข้อถกเถียงอีกองค์คือ ปู่ฤาษีหน้าเสือหรือท้าวหิมวัตน์ บางท่านก็บอกว่าเป็นอีกภาคหนึงของ ปู่เจ้าสมิงพรายในลิลิตพระลอ ตำนานของท้าวหิมวัตน์คือเป็นอดีตเจ้าเมืองๆนึง มีความเมตตาเป็นอย่างมาก มีผู้คนมากมายเข้ามาขอสิ่งต่างๆมากมาก ซึ่งท่านก็ให้ๆไปจนหมดจนสุดท้าย ไม่เหลืออะไรติดตัวแต่ก็ยังมีคนเข้ามาขอสิ่งต่างๆอยู่ไม่ขาดจึงเบื่อหน่าย แปลงกายเป็นเสือเข้าไปอยู่ในป่าลึกเพื่อหลีกหนีผู้คน แต่ถ้าหากมีใครไปเจอขอพรอะไรจากท่าน ท่านก็ยังคงให้อยู่เสมอด้วยเมตตาอันสุดประมาณของท่าน ความรู้อันนี้จาก ปู่ฤาษีอำนาจ ทองเจริญ
สุดท้ายแล้วที่เราบูชากันอยู่คือองค์ไหน ท่านจะเป็นองค์เดียวกันหรือคนล่ะองค์ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมถือท่านเป็นครูใหญ่ประจำสำนักเพราะด้วยเมตตาจากท่านที่เมตตา ลูกศิษย์กำพร้าคนนี้เสมอ จะเครื่องเซ่นสังเวยไม่ครบ สำนักจะเล็กไม่โอ่อ่าใหญ่โตแต่ท่านก็ไม่เคยละเลยยังคงส่งแผ่พลังมาช่วยทุกครั้งทุกร้องขอ..........ก็เป็นเรื่องเล่ายาวๆ อ่านเพลินพอให้ขบคิดกันไปนะครับ เพราะบางทีอาจจะเป็นองค์เดียวกันแต่แบ่งภาค ตามปรกติของฤาษีชั้นพรหมที่แปลงรูปกายแบ่งภาคได้ เช่นปู่ฤาษีตาไฟที่เป็นภาคหนึ่งของพระอิศวร ปู่ฤาษีเพชรฉลูกัณฆ์ที่เป็นภาคหนึ่งของพระนารายณ์
ก็เลยเป็นที่ถกเถียงกันมาไม่จบไม่สิ้นว่า ภาคใหญ่ของท่านคือองค์ไหนกันแน่ ศึกษากันต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างมีที่มาแล้ววันนึงเราอาจจะได้รู้กันครับ
หน้าที่เข้าชม | 1,374,689 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,079,306 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ธ.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 28 ก.ค. 2568 |