ขอแชร์จากเฟส Jaruvat Chanposri
อย่ามองแต่ว่าเป็นเรื่องงมงาย
ใครที่เคยอ่านเรื่องของพระคาถาต่างๆจะเห็นได้ว่าแบบฉบับการดำรงชีวิตของคนเป็นครูหรือผู้ทรงวิทยาคมนั้นตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนทุกขั้นตอนของชีวิตจะมีการภาวนาคาถากำกับตลอด
ตื่นเช้าล้างหน้าก็บริกรรมคาถา
จะแต่งตัวใส่เสื้อก็มีคาถาว่ากำกับ
จะกินข้าวก็ต้องบริกรรมคาถา
จะเดินออกจากบ้านดูลมหายใจเข้าออกแล้วบริกรรมคาถาก่อนออกจากบ้าน
จะเจอะเจอหน้าใครชายหรือหญิงก็มีคาถาภาวนา
พอจะเจรจาก็ว่าคาถากำกับ
ฯลฯ
ดูมากมายหลายขั้นตอน คนสมัยใหม่คงบอกว่าไม่ทันกินและงมงายเกินไป แต่ครูบาอาจารย์ผมสอนไว้ว่าที่ท่านให้บริกรรมแบบนั้นมันเป็นเรื่องของการปฏิบัติธรรม ก่อนจะกินจะเดินจะนั่งจะนอนจะพูดจะคุย ก็ให้ตั้งสติ สมาธิ ปัญญาขึ้นก่อน คือการบริกรรมเพื่อให้ใจสงบนั่นเอง เมื่อใจสงบก็มีสติ มีปัญญาขึ้นตามลำดับที่จะกระทำสิ่งใดแบบขาดสติก็ไม่เกิดหรือเกิดน้อยลงไป
คนโบราณไม่ได้โง่หรอก แต่เขาเอาการปฏิบัติธรรมใส่ไว้ในชีวิตประจำวันแบบแนบเนียน ผสมไว้ในความเชื่อแบบพื้นบ้าน มองเผินๆดูเป็นไสยศาสตร์ มาดูให้ลึกลงไปจึงเห็นว่าเป็นการปฏิบัติธรรม จะทำอะไรให้นึกถึงพระ นึกถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก่อน เป็นการตั้งสติระลึกถึงคุณความดีไว้ก่อนเป็นหลักแล้วค่อยลงมือทำอย่างมีสติมีความตั้งใจ ใจสงบก่อนจึงค่อยลงมือทำ
เห็นไหมล่ะว่า บางทีไสยศาสตร์กับการปฏิบัติธรรมมันกลืนกันอยู่ในเนื้อเดียวกันขึ้นอยู่กับใครมองไปแง่ไหน มีสติปัญญาพิจารณาไปแง่มุมใด
-------------------------
"บริกรรม คาถา" อย่ามองแต่ว่าเป็นเรื่องงมงาย
ติดตามบทความดีดีได้ที่ komsanvpr.lnwshop.com ^_^ ·
หน้าที่เข้าชม | 1,376,061 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,080,678 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ธ.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 28 ก.ค. 2568 |