คาถาบทนี้ผมKomsanvpr Amuletใช้สวดประจำตอนอาราธนาพระขึ้นคอครับ
บทความนี้ขอแชร์จากเฟส อ.ทองเอก พรเทวะ
คาถา "มงกุฎพระพุทธเจ้า"
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
การสวดพระคาถานี้ ว่า 3 จบ หรือ 9 จบ
สำหรับอานิสงส์ของคาถานี้เป็น คาถาครอบจักรวาล เรานำไปใช้ในทางกุศลได้ทุก ๆ เรื่อง
โดยมีประวัติ ของการใช้คาถานี้มายาวนาน ส่วนใหญ่ในราชสำนัก แม้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า รัชกาลที่ 5 ท่านก็ทรง พระคาถานี้เป็นประจำมีที่ปรากฏเป็นปาฏิหาริย์ ก็ครั้งที่ถูกทูตต่างประเทศนำม้าเทศตัวใหญ่แต่เป็นม้าพยศ มาท้าให้ท่านทรง พระองค์ท่าน ได้ใช้พระคาถานี้เสกหญ้าให้ม้ากินก่อน ม้าตัวนั้นก็กลับเชื่องให้พระองค์ทรงม้าแต่โดยดี เรื่องนี้ทำให้รัชกาลที่ 6 ผู้ทรงสร้างพระบรมรูปทรงม้าถวายเสด็จพ่อของท่านได้ทรงแฝงนัยยะ แห่งกฤษดาอภินิหารนี้เพื่อเทิดทูนพระคุณท่านเอาไว้
หลักในการว่าคาถาให้มีความศักดิ์สิทธิ์นั้น มีพื้นฐานจาก " จิต " เป็นสำคัญ หากจิตมีสมาธิสูงตั้งมั่นคาถาก็ยิ่งทรงความศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นระหว่างที่ว่าคาถาให้ จับลมหายใจสบายพร้อม ๆ กับ การภาวนาคาถาบทนี้
ขอกราบอาธารณาบารมี พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้าเพื่อ.......ปกปักรักษาคุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเทอญ
จากนั้นสวดพระคาถา
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
เมื่อว่าคาถาจบ คาบที่ 1
ก็กำหนดอาราธณาพุทธนิมิต อยู่เบื้องหน้า ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตนี้เอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิอิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 2
ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์หนึ่ง อยู่เบื้องขวา ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตทั้งหมดเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 3
ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านหลัง ของศีรษะเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 4
ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านซ้าย ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 5
ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิงติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 6
ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 7
ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 8
ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของศีรษะของเรา
และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้ทั้ง 8 พระองค์เรียงวนรอบศีรษะของเรา
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 9
กำหนดพุทธนิมิตพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่เสด็จประทับกึ่งกลางศีรษะเป็นยอดมงกุฎเปล่งประกายพรึกทุกๆพระองค์เป็นมงกุฎเพชรพระพุทธเจ้าทั้งเก้าพระองค์ บนเศียรเกล้าของเรา
เมื่อทำได้แล้วจะเข้าใจได้ทันทีว่าคาถานี้ทำไมจึงมีชื่อว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
และ ให้ทรงมงกุฎพระพุทธเจ้านี้เอาไว้ตลอดเวลาเป็นการทรงอารมณ์ในพุทธานุสติกรรมฐาน
คำแปล คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษ
คุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐ
ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้ว
จงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์
และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิ
ครอบคลุมข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
------------------------------
ติดตามบทความดีดีได้ที่ komsanvpr.lnwshop.com ^_^ . · · · ·
หน้าที่เข้าชม | 1,375,647 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,080,264 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ธ.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 28 ก.ค. 2568 |