
PD-1..ขอแชร์มาจากเฟส ศิริศักดิ์ สงครามสุข
ในกลุ่มจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ขออนุโมทนาในธรรมมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ สาธุครับ ^_^
โดย...พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง
บางท่านจะไปคิดหนักใจว่า เวลานี้เราแต่งงานกันเสียแล้ว นี่ทำอย่างไรจะแยกกันได้หรือ เมื่อเราอยู่ด้วยกันไอ้ราคะกิเลสมัน...ก็มี ก็ปล่อยให้มันมีไป มันจะเป็นไรไปมันจะมีก็ดี ก็ทำงานหนักทุกตามหน้าที่มันทุกอย่าง แต่ว่าถ้าจิตใจของเราพยายามให้มันกระทำใจให้ห่างลง ตัวอย่างเขามีถมไป
อย่างนางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นพระโสดาบันตั้งแต่อายุ ๗ ปี พออายุ ๑๖ ปี เธอก็แต่งงาน ก็มีลูกตั้ง ๒๐ คน แล้วเธอก็เป็นพระโสดาบันได้
อย่าง ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ก็เช่นเดียวกันว่า อนาถบิณฑิกเศรษฐีท่านเป็นพระโสดาบัน ท่านก็อยู่คู่ครอง แล้วการอยู่เป็นคู่ครองก็ถือว่าอยู่กันตามหน้าที่ จิตใจของท่านทั้งหมดนี้มุ่งพระนิพพานเป็นอารมณ์ ในเมื่อจิตมุ่งนิพพานเป็นอารมณ์ ถ้าตายจากความเป็นคนใจมันก็ไปนิพพาน นี่ว่ากันเรื่อง จิตตานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน ยาวไปนิดหนึ่ง ยาวไปมากนะ วันนี้พูดครึ่งชั่วโมงกว่า
ท่านบอกจิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ ถ้าจิตปราศจากราคะก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ จิตปราศจากราคะมันเป็นอย่างไร วันนั้นเวลานั้นจิตมันจะมีความสุข มันจะมีความปลอดโปร่ง ความผูกพันในเรื่องรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อยมันจะไม่มีสำหรับจิต อารมณ์สบาย รู้จักใจมันไว้ ดูจิต คำว่าจิตก็คือ ดูอารมณ์กระทบจิต จิตมันสภาพดี ที่เราไม่ดีด้วยก็เพราะอาศัยทุกสิ่งภายนอกเข้ามากระทบ คือ อารมณ์ของกิเลสทำให้จิตกระเพื่อม จิตมีสภาพเหมือนน้ำใส นอนนิ่งอยู่ในตุ่ม จิตแท้ ๆ มันใส แต่ทว่าที่เราต้องเวียนว่ายตายเกิดเพราะมีกิเลสเข้ามาควบ กิเลสตัวสำคัญตัวแรกใน จิตตานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน ก็คือ ราคะ
นี่ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทจงระมัดระวังราคะไว้เป็นสำคัญ ถ้าจิตมันมีความผูกพันสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้ แต่จิตใจมันอยากจะได้ก็จงเตือนใจมันว่า สิ่งที่เราปรารถนาอยากจะได้มานี่มันไม่มีสภาพทรงตัวประเดี๋ยวมันก็เก่า เมื่อเก่ามามันก็เศร้าหมอง ประเดี๋ยวก็ความทรุดโทรมมันก็เกิดขึ้น ในที่สุดมันก็พัง แล้วร่างกายเราก็มีสภาพอย่างนี้เหมือนกัน เราจะต้องการเฉพาะที่เรามีความจำเป็น ต้องกินต้องใช้เท่านั้น ถ้าสิ่งใดเป็นของฟุ่มเฟือยเกินไป เราจะไม่มีเอาใจเข้าติดจนเกินไป นี่ รักษากำลังใจไว้อย่างนี้นะ คิดไว้ว่าจิตดีหรือไม่ดี
วันนี้เอาเฉพาะราคะ นั่งคิดไปอยู่เสมอ มันก็ลืมบ้าง ไม่ลืมบ้าง มันเป็นของธรรมดา แล้วจงอย่าลืมว่าการรวบรวมไว้วันละเล็กละน้อยนี่ มันจะรวมตัวจริง ๆ รวมตัวตรงไหน ท่านเจริญสมาธิจิตได้บ้างไม่ได้บ้าง ดีบ้างไม่ดีบ้าง อย่าลืมนะ ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง มันดีมันก็ดี ดีน้อยมันก็ดี ดีมากมันก็ดี การรวบรวมกำลังใจ ก็เหมือนกับน้ำตกมาจากฟากฟ้าทีละหยาด ๆ แต่ว่าไอ้น้ำที่ตกลงมามันมีภาชนะสำหรับรอง เมื่อตกลงมามาก ๆ มันก็รวมตัวกันมากขึ้น บุญกุศลที่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทำ มันไม่ไปไหน มันจะรวมอยู่ที่ใจท่าน ท่านสมาทานศีล ศีลมันก็รวมอยู่ที่ใจ เจริญวิปัสสนาญาณ วิปัสสนาญาณมันก็ร่วมอยู่ที่ใจ
จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ ฯ เล่มที่ ๘ หน้า ๑๙๓-๑๙๔
http://www.thasungmedia.com/w…/puy/ebook/2555/Romkhamsong8/…
ติดตามบทความดีดีได้ที่ komsanvpr.lnwshop.com ^_^ .