
PD-1..ขอแชร์มาจากเฟส Nutta Chan กับ มงคล ทิพย์โพธิ์ศรี ขออนุโมทนาในธรรมมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ สาธุตนีบ ^_^
ท่านลุงพุฒิและท่านลุงใหญ่นายบัญชีฝากบอกลูกหลานหลวงพ่อให้ทำบุญ ๓ อย่าง
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
" ขณะเข้าเจริญกรรมฐานอยู่ ลุงกับนายบัญชี ๒ ลุง ลุงพุฒิ กับ ลุงนายบัญชีท่าน ก็ยืนอยู่ ท่านบอก
"คุณ เอาอย่างนี้นะ บอกลูกหลานผมน่ะจะสงเคราะห์คนได้ ในวงจำกัด เฉพาะเชื้อสายเท่านั้น นอกจากเชื้อสาย เราจะสงเคราะห์เขา ไม่ได้ ถ้าเขาไม่เชื่อเรา คนทุกคนที่มาหาคุณ มันก็เชื้อสายทั้งหมด ถ้า ไม่ใช่เชื้อสายมันก็ไม่มา"
บอกว่า " การบำเพ็ญกุศลคราวนี้ คือการบรรจุพระบรม- สารีริกธาตุ ให้เอาทรัพย์สินบรรจุ เขาทำช่องสองช่องไว้ แล้วท่านบอกว่า ทรัพย์สินแม้ แต่ไม่มาก ให้ทำเพียงสลึงเดียว ถ้าทำด้วยความเต็มใจและปีติ ถ้าทำอย่างนี้ฉันจะขึ้น บัญชีสงเคราะห์เวลาตายไว้ นั่นหมายความว่า บาปไม่ได้ล้างไป แต่เวลาตายประคอง ขึ้นสวรรค์ไปก่อน "
ท่านก็เลยเอาบัญชีให้ดู บอกว่า
" บัญชีแบบนี้เขาทำแบบนี้กัน "
ทีนี้ก็ มีปัญหาว่า ท่านบอกว่าให้ไปใส่เอง นี่เราก็ไม่รู้ ทำบุญแบบนี้อานิสงส์มันต้องได้แน่ นอน แต่จะปิดหรือไม่ปิด ถ้าปีติก็ปิดแต่ว่ามันมีว่า บุญทั้ง ๓ ประการที่ท่านบอก ว่า
" ๑. ให้ท่านเป็นพยาน
๒. สะเดาะเคราะห์บวชเณร
๓. แล้วก็บรรจุบรมสารีริกธาตุ
เป็นบุญกุศลที่ท่านจะช่วย ไม่ใช่ล้างบาปนะ ช่วยไปสวรรค์ก่อน ถือว่าเป็นการขึ้น บัญชีสวรรค์ไว้ก่อน "
ฉะนั้นถ้าไปกับไม่ไป มีผลต่างกันไหม ท่านบอกว่า ขึ้นกับปีติ ถ้า ปีติเท่ากัน มันก็เท่ากัน ถ้าไปปีติมากกว่า ก็อานิสงส์มากกว่า ทองคำเหมือนกันแต่ เปอร์เซ็นต์ไม่เท่ากัน ใช่ไหมล่ะ นั่นหมายถึงกำลังของบุญนะ "
"การนำทรัพย์สินบรรจุในแท่น เป็นการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ จะมี ทรัพย์สินมาก เหมือนอย่าง ท่านมณฑกเศรษฐี แต่ท่านลงท้าย ท่านบอกว่า แค่เหรียญสลึงสลึงเดียว ก็เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ ท่านไม่ได้เกณฑ์ว่า เป็นทองเท่านั้น บาท เท่านี้สลึงนะ เป็นทองคำก็ได้ ทองแดงไม่เอา ทองเหลืองเท่าทองคำ เอา เหรียญสตางค์ธรรมดานะ ไม่ต้องเกณฑ์มากมายใหญ่โต ไม่ต้องอย่างนั้นหรอก
เอาแค่มีแค่สลึงเดียวถือว่าเป็นทรัพย์สิน เงินสลึงหนึ่งจะถือว่าน้อยไม่ได้เพราะ สามารถจะรวมกันซื้อของได้ "
โอวาทธรรมคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง อุทัยธานี หน้า ๒๔
ติดตามบทความดีดีได้ที่ komsanvpr.lnwshop.com ^_^